เรื่องเล่าจากชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ 3



วิชาสัตตาภิธรรมเบื้องต้น (วิชาโหราศาสตร์แนวพุทธ) เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง???
วิชา นี้เป็นวิชาที่เรียนเพื่อให้รู้ว่าคนเราเกิดมามีบุญมีบาปอะไรติดตัวมาบ้าง. การที่เราต้องพบกับเรื่องดีๆหรือเหตุการณ์ร้ายๆในชีวิต เป็นเพราะว่าอะไร. กุศลกรรมหรืออกุศลกรรมในอดีตและปัจจุบันส่งผลอย่างไร ก่อให้เกิดวิบากกรรมอย่างไรต่อไป. เกิดผลดี-ผลเสียอย่างไร??  เมื่อเรารู้แล้ว เราควรจะแก้ไขอย่างไรดี??

จึงเกิดเป็นแนวทางในการ แนะนำของกลุ่มโหราจารย์ทั้งหลายว่า "ให้เลี่ยง". "ให้แก้ไข". "ให้สะเดาะเคราะห์" เป็นต้น. ก็เป็นเรื่องที่ผู้ศึกษา. ผู้จะเป็นโหราในภายหน้า. จำต้องมีจรรยาบรรณของหมอดู+จิตแพทย์ ตลอดจนผู้ที่เข้าไปขอคำแนะนำจากหมอดู ควรจะพิจารณาในเหตุผลต่อไป

ก่อนที่จะเข้ามาเรียนนั้น ผู้เขียนมีความสนใจอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว (ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่สอดรู้สอดเห็น). อยู่ก่อนแล้วว่า คนที่เป็นหมอดูเขาใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณาว่า คนที่เกิดวันนั้นวันนี้เวลานั้นๆ อาจเจอกับเหตุการณ์นั้น ควรแก้ไขอย่างนี้ เป็นต้นประการหนึ่ง. และประการที่2 เขามีเจตนาหรือวิธีการใดที่ทำให้คนมาขอคำแนะนำกลับออกไปด้วยอารมณ์แจ่มใส ในเวลาไม่นาน. ใช้เงินค่าบูชาครูเพียงนิด สละเวลาาในการรับคำปรึกษาเพียงนิด แต่ได้ผลมากเหมือนไปหาจิตแพทย์ราคาแพงของเมืองนอก??? 

พอมาเรียน คุณครูผู้สอนจะบอกไว้ก่อนเลยว่า. ผู้ที่เป็นหมอดู ก็คือจิตแพทย์ดีๆ นี่เอง....(อู้ฮู คุณครูสุดยอดเลยค่าาาา รู้ใจหนูด้วย. อันนี้อุทานในใจ. ไม่กล้าอุทานดังๆกลัวเพื่อนอุทานดังกว่า). ผู้ที่มาดูดวงนั้น เขามีทุกข์ทางใจ มาขอให้ช่วย. ดังนั้น ผู้ที่เป็นหมอดูที่ดี ต้องคิดไว้แล้วว่า เมื่ออุทิศตนมาเป็นศิษย์ ขอเรียนรู้หนึ่งในวิชาขององค์บรมครูสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ต้องช่วยแนะนำทางที่ดีให้ผู้มาขอความช่วยเหลือ. เป็นการแบ่งเบาภาระด้านหนึ่งจากพระสงฆ์สาวกของพระสัมมาด้วย. (ตามความเข้าใจ ของผู้เขียน)

วิชาโหราศาสตร์ เป็นวิชาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากที่สุดวิชาหนึ่ง ว่าหนึ่งในวิชาต้องห้ามในทางศาสนาหรือไม่? บ้างก็ว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ. บ้างก็ว่าเป็นสัมมาทิฏฐิวิชา. แต่เรื่องนี้ เราอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์เลย..... เพราะเหตุที่ว่า.....เรียนแล้ว. ขออย่าไปใช้ในทางที่ผิด ก่อให้เกิดกิเลสตัณหา เกิดโลภะ โทสะ. โมหะ ขึ้นในจิตใจ เป็นอันใช้ได้

ดังนั้น เมื่อมีการเรียนวิชาโหราศาสตร์แนวพุทธของทางชมรมสุวรรณโคมคำ จึงมีการเรียนปฏิบัติกสิณและเรียนหลักธรรมะไปด้วย เพื่อให้ผู้เรียนมีสมาธิ. ก่อนพัฒนาสติและเกิดปัญญาทางธรรม

หนุ่มน้อยวัยใส หัวหน้ารุ่นประจำวันอาทิตย์!!!

ชั่วโมง ต้นๆ นักเรียนเด็กโค่งในรุ่นเดียวกัน มีบ้างที่รู้จักกัน แต่ส่วนมากจะไม่รู้จักกันมาก่อนเลย เพราะเหตุที่ไม่มีผู้ประสานงานในกลุ่ม. จึงมีการขออาสาสมัครเป็นหัวหน้ากลุ่มขึ้นมา. เพื่อช่วยคุณครูผู้สอนเตรียมการต่างๆ
ตลอดจนเก็บการบ้านส่ง. (ต้องมีการลอกการบ้านกันส่งแน่นอน. แต่ก็เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ดีทางหนึ่งค่ะ คุณครู หนูขอยืนยัน เพราะหนูสนิทกับเพื่อนกลุ่มนี้เพราะขอดูการบ้านด้วยส่วน หนึ่ง นอกเหนือจากการชอบเรียนกสิณเหมือนกัน)
เราได้อาสาสมัครคู่หนึ่ง ชายหนุ่มเป็นหัวหน้าห้อง. หญิงสาวเป็นเลขา. (มารู้เอาทีหลังว่า. หนุ่มน้อยตัวโตเป็นน้องชายผู้เงียบขรึม. ส่วนสาวน้อยตัวเล็กเป็นพี่สาวช่าง จ้อ เป็นคู่พี่น้องประเภทที่ว่า น้องข้าเองทุกคนใช้ไปเถอะ พี่สั่งน้องได้ทุกอย่างจ้า ทำนองนั้น. ไม่วายที่น้องชายจะประท้วงอะไรก็ตามที...)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น