This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

ถวายกตัญญู บรรพครูสุวรรณโคมคำ ภาค 1







    กลางคืนวันที่ 24 ธันวาคมตื่นเต้นที่สุดเลยเพราะเราจะไปไหว้ครูบรรพครูสุวรรณโคมคำ มี สมเด็จศรีศรัทธา ฯ เป็นต้น เพราะเกิดมาเพิ่งเคยปฏิบัติธรรมเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะคณาจารย์ของ ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ ว่าต้องเตรียมสำภาระเช่น ไฟฉาย,เต้น,ยากันยุง,ผ้าห่มกันหนาว แต่ผ้าห่มตาหมีไม่มี เพราะที่พิษณุโลกหนาวมากๆ เห็นคณาจารย์ว่า อย่างนั้น ผู้เขียนก็จินตนาการไปถึง นิวซีแลนด์ เลย อิอิ ล้อเล่น แต่ก็เชื่อเหล่าครูบาอาจารย์เขาคงไม่หลอกเรา แน่ เราก็เตรียมข้าวของไปแบบ พะรุงพะรัง เลยน๊ะ เขาก็แชวกันใหญ่ว่าบ้าหอบฟาง คิคิ แต่ธรรมดาพี่ๆ ครูบาอาจารย์มีความอนุเคราะห์มากอบอุ่นมาก ไปด้วยรถตู้ 3 คัน รวมทั้ง หมด 32 คน แล้วขับรถตามไปอีก 1 คัน เราจะเอารถไปก็กะไรอยู่ เพราะน้ำมัน แพงมาก  ไปถึงสำนักสงฆ์ศรีสุวรรณโคมคำแล้วประมาณ ตี 4 กว่าๆ พอไปถึงก็ลงจากรถได้สำผัสพลังแห่งความหนาวเหน็บขึ้นมาทันควัน พอไปถึงก็เหมือนผึ่งแตกรัง ห้องน้ำอยู่หนาย ฮ่า ก็มึนไปหมดว่าจะไปมุมใหนของสำนักสงฆ์ก่อนดี เสียงมาจาก โบสถ์โบราณว่่า ยินดีต้อนรับ นั้นเป็นเสียงของครูบาพี่ วสันต์ ก็เดินนำทางขึ้นไปกุฏิ ก็สนทนากันจนเช้า ครูแพมก็เรียกไปเจริญสมาธิกันเลยเอาล่ะหว่า เพิ่งมาปฏิบัติกันเลยเหรอเนี่ย เหนี่อยมากทำไงดีแกล้งไปอาบน้ำแล้วดีกว่า เช้านั้นก็ไม่ได้ไปปฏิบัติอะไรเพราะแอบไปนอนเพราะมันหนาวมาก มาปฏิบัติอะไรตอนนี้ เล่า พอตกเช้าก็ตื่นขึ้นมางัวเงีย ล้างหน้าล้างตาพอสมควรเพราะ พิษณุโลกทำไมมันหนาวขนาดนี้ เห็นครูบาพี่ ท่านบอกว่าบำเพ็ญตะบะให้แก่กล้า แต่ครูบาพี่ก็คลุมผ้าห่มทั้งตัวเลยเหมือนกัน แฮะ ไม่อยากแซว อิิอิ ครูบาพี่วสันต์เลยชวนไปจัดสถานที่ที่จะจัดงานตอนบ่ายจะมีการพุทธาภิเษก พระพุทธเจ้าเปิดโลกก็ไปช่วยครูบาพี่ และ ครูบามหาจุ้ย สักระยะพอสายๆ ก็เริ่มอบอุ่นอาบน้ำได้ ก็เตรียมตัวเข้าพิธีพุทธาภิเษก พระพุทธเจ้าเปิดโลก ตอนแรกมีครูบาพี่ 4 รูป แต่ท่านบอกว่า จะมาอีก 6 รูป เป็น 9 รูป โห พอเข้าพิธีช่วงประมาณบ่าย 2 แดดเริ่มร้อนมาก พอสวดพุทธมนต์อะไรไม่รู้แหล่ะ แล้วสวด อิติปิโส 108 ก็นานมาก เหน็บไปทั้งตัวจะขยับก็ไม่ได้เพราะนั่งแถวหน้าเลยทำตีสนิทครูบาพี่ วสันต์สุดฤทธิ์เผื่อได้ของขลังกลับบ้านบ้าง พอสวดอิติปิโส 108 จบ แดดที่เคยร้อนกลับกลายเป็นว่าเย็นสบายเพราะอยู่ดีๆ แดดมันหายไปใหนเมฆมันคลุมให้ล่ะมั้ง โอ้คิดในใจ ที่นี่แรงจริงๆ พอพิธีเสร็จ ก็ร้อนเหมือนเดิมก็ไป พี่โมเช่ ก็ชวนกันไปขุดฝายกั้นน้ำเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในหน้าร้อน พอตกกลางคืนก็สวดมนต์มนต์เย็นแล้วความเหน็บหนาวก็มาเยือนอีกครั้งหนึ่งทุกคนไส่เสื้อกันหนาวกันแบบสุดฤทธิ์ กระผมก็สวดไม่ค่อยเป็น ถั่งงา ไปเรื่อยๆ กะพวกพี่ๆ เพราะพี่ๆที่ไปเก่งสวดมนต์กันทั้งนั้นเลยพอสวดมนต์เสร็จแล้ว ก็ลอยโคม 50 กว่ดวง ขึ้นท้องฟ้าตั้งจิต อธิษฐาน มันมีความสุขมากมายมหาศาลนะผมว่าคือ ตอนแรกก็ยัง งง เพราะเรามันคนไกลวัด พอได้สัมผัสแล้วมันมีความสุข ปลาบปลื้มมากในกิจกรรม ของชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำมาก ผมว่า บุญไม่ได้เกิดจากการเข้าวัด แต่มันต้องพร้อมไปด้วย กาย,วาจา,จิต ดังที่ครูบาพี่ท่านได้กรุณาสอนกระผม แล้วคนใกลวัดอย่างผมมัน เข้าใจมากขึ้นเพราะเราเข้าวัดต้องถามในใจก่อนว่า เราเข้าไปทำไม ไปถวายสังฆทานอย่ง อาม่าชอบไปถวายพระวัดโน้นวัดนี้ แต่พอกลับมาจากวัดท่านก็บ่น เหมือนเดิมจึงสงสัยมากว่า เข้าไปทำไมออกมามันก็เหมือนเดิมข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะไม่ไป แต่ที่มาก็เพราะ เขาบีบคอให้ผมมา ผมจึงมา ถ้าไม่บีบคอผมผมก็ไม่มา ฮ่าๆล้อเล่นครับผมเป็นนักกิจกรรม ก็เห็นว่า ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำมีกิจกรรม โน้น นี่ก็เลยอยากไปเพราะเห็นว่ามีการลอยโคม และก็ฝึกสมาธิ ด้วย ผมเคยบอกครูบาพี่ทั้งหลายว่าอยากบวช แต่ครูบาพี่ท่านบอกว่า การบวช มันอยู่ที่ใจของเราทำไมเหรอจะต้องห่มผ้าสีเหลืองนี่ก่อนเหรอถึงจะปฏิบัติได้แต่ก็ไม่ห้ามเรื่องการบวชนะ แต่ก็เราต้องพร้อมไม่มีภาระอะไรจิตใจปลอดโปล่งจึงจะบวชแบบไม่มีห่วง จะดีกว่า ก็คุยกันซะยืดยาวเลยทีเดียว แล้วท่านก็ไปพักผ่อน รุ่งเช้าวันที่ 25 ธันวาคม 2554 มีเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมา ผมก็ไม่อยากตื่นเพราะหนาวมากไม่อยากเกเร แต่ก็มันหนาวมากครับ เสียงสวดดังเป็นระยะ เกือบชั่วโมงแล้วก็ยังไม่อยากตื่น แต่พอพี่ๆ เขามาปลุกฉุดกระชากลากถูให้ลุกไปทำวัตรเช้ากับครูบาพี่ วสันต์ และครูบาพี่มหาจุ้ย เสียงสวดก็หยุดลง แล้วท่านบอกให้สวดสรภัญญะขึ้นว่า  "จักกล่าวจักพรรณา ความเป็นมาแดนพระมุนี" ขนลุกซูซันไปหมดทั้งตัว ตอนแรกนึกว่าครูแพม นำสวดไม่ไช่พอไปใกล้ๆ อ้าวครูบาพี่วสันต์ สวดนี่นาก็ไปนั่งสวดพอขึ้นมาก็เอ๊ะ มีแค่ 2 คน พี่สุจิต กับพี่โมเซ่ ของเรานั่งสวดกัน 4 คน ผมก็นั่งลงเป็นคนที่ 5 สักพัก ก็เริ่มทะยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ผมชอบมากครับสวดสรภัญญะ เสียงท่านไม่ตกเลย พอสวดเสร็จแล้วก็มองไปข้างล่างคนไปช่วยกันทำกับข้าวเป็น 10 คนเลยแหม เพราะโรงครัวเขามีฟืนนี่เองปล่อยให้ พี่สุจิต พี่โมเซ่ และ ทีมงานประมาณ11 คนนั่งสวดมนต์เหน็บหนาวมาก แต่ที่มาก่อนเพื่อนเลยคืิอพี่สุจิต แหมนึกว่ามาช่วยครูบาพี่ ท่านสวดมานั่งทำแป๋วๆๆ แล้วบอกว่า พี่ปราถนา นิพพาน นะน้อง
   ฮ่าๆๆ มานั่งตาแป๋วไม่ช่วยเขาสวดเอาแค่ สวรรค์พอมั้ง อิอิ
      กิจกรรมนี่เด็ดสุด พอครูบาพี่สวดมนต์เสร็จ ก็ให้ครูชมนาทนำเจริญกสินไฟ ร้อนไปทั้งตัวเลยพอเจริญกสินไฟเสร็จแล้ว ครูหน่อย,ครูเกิ้น,คุณจัส ก็นำกายบริหาร ตอนแรกนึกว่าจะสวดมวยจีนวัดเส้าหลินแล้วแต่พอได้ฝึกกายบริหาร ธาตุ 4 เหมือนเลือดลมเดินได้สะดวกมากเลยทีเดียว เส้นตึงๆ ก็คลายไปมากโข มาครั้งนี้ได้ประสบการณ์ไปเมาส์ต่อที่ มหาลัยได้สบายๆ เลย ฮ่าา สุขภาพกายใจดีขึ้นมากเลย ก็เป็นกิจกรรมก่อนที่ จะกลับ กทม.ช่วงบ่ายโมงครับผม     วิริเยนทุกฺขมจฺเจติ  ครูบาพี่ วสันต์ ท่านอุทาน ท่านได้กล่าวว่าความกตัญญูเป็นสัญลักษณ์ของคนดีจะทำการอันใดที่เป็นคุณประโยชน์ต่อสถานที่ที่บรรพครูของพวกเราคือเป็นการอัน สมควรจะกระทำการรวมใจกันทำความดีเป็นสิ่งที่เราเหล่าบัณฑิตควรจะกระทำเรียกได้ว่าผู้นั้นมีความกตัญญูอันประมาณมิได้ และทุกปีเหล่าศิษย์สุวรรณโคมคำ ควรมากระทำถวายกตัญญูต่อบรรพครูสุวรรณโคมคำทุก ปีเพราะเป็นเรื่องที่เหล่าศิษย์ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการมากตัญญูต่อบรรพครูเป็นสิ่งที่เหล่าศิษย์สุวรรณโคมคำควรกระทำทุกปี จึงได้ชื่อว่า ถวายกตัญญู บรรพครูสุวรรณโคมคำได้ยินคำนี้ที่ไรซาบซึ้งทุกครั้ง กลับบ้านด้วยใจปลอดโปล่งโล่งสบายยิ้มชื่นกลับบ้านอย่างมีความสุข